Headlines News :
Home » » "มนตรี ยอดปัญญา" ประธานศาลฎีกา ถึงแก่อสัญกรรมที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน54

"มนตรี ยอดปัญญา" ประธานศาลฎีกา ถึงแก่อสัญกรรมที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน54

Written By Unknown on วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 | 19:48



มีรายงานข่าวว่า นายมนตรี ยอดปัญญา ประธานศาลฎีกา ได้ถึงแก่อสัญกรรม ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวและติดเชื้อในกระแสโลหิต ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. วันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังเข้ารับผ่าตัดรักษาโรคมะเร็ง โดยทางญาติจะเตรียมตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

ปัจจุบัน นายมนตรีมีอายุ 63 ปี เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา และมีวาระดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา 2 ปี โดยจะเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ.2556 สำหรับประวัติการศึกษา ประธานศาลฎีกาผู้นี้จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมดี) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นเนติบัณฑิตไทย

นอกจากเจริญก้าวหน้าในเส้นทางผู้พิพากษามาตามลำดับแล้ว นายมนตรียังเป็นผู้บรรยายพิเศษในวิชากฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งใน มหาวิทยาลัยหลายแห่ง รวมทั้งมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลฎีกาอย่างสูง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "ตู้ฎีกาเคลื่อนที่"

ทั้งนี้ นายมนตรี ยอดปัญญา ถือเป็นประธานศาลฎีกาคนแรกที่เสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง โดยกฎหมายพระธรรมนูญ ศาลยุติธรรม มาตรา 8 วรรค 2 กำหนดว่า นายไพโรจน์ วายุภาพ รองประธานศาลฎีกาคนที่ 2 ซึ่งมีอาวุโสสูงสุดจะขึ้นดำรงตำแหน่งแทน และมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด

มนตรี ยอดปัญญา

เป็นที่น่าเสียดายที่ไทยต้องสูญเสียคนมีความรู้ความสามารถในวงการศาล สถิตย์ยุติธรรม"มนตรี ยอดปัญญา" ประธานศาลฎีกา ได้ถึงอนิจกรรม สิริอายุ 63 ปี ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวและติดเชื้อในกระแสโลหิตเมื่อคืนวันที่ 26 พ.ย.2554 ที่ผ่านมา หลังเข้ารับการผ่าตัดโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลศิริราช ญาติเตรียมตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

สำหรับ"มนตรี"เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2554 แทนนายสบโชค สุขารมณ์ ที่ได้เกษียณอายุราชการครบ 65 ปี ซึ่งได้ทำหน้าที่เกือบ 2 เดือน และมีอันต้องเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ถือป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นอย่างสูง สามารถจดจำฎีกาที่บรรพตุลาการเคยมีคำวินิจฉัยไว้ได้อย่างแม่นยำทั้งเลขที่ ฎีกา องค์คณะผู้พิพากษาที่ตัดสินจนได้ชื่อว่าเป็น “ตู้ฎีกาเคลื่อนที่”และตลอดชีวิตผู้พิพากษากว่า 40 ปี ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในศาลฎีกา กระทั่งได้รับตำแหน่งสูงสุดด้วยวัย 63 ปี ส่วนภรรยาก็อยู่ในแวดวงเดียวกัน"ประทานพร ยอดปัญญา" รับราชการผู้พิพากษาศาลอุธรณ์ภาค  9

ชื่อ-นามสกุล : นายมนตรี ยอดปัญญา

เกิดวันที่ : 8 สิงหาคม 2493

วันที่เสียชีวิต : 26 พฤศจิกายน 2554

การศึกษา :
-ระดับประถมศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 (พะเยาประชานุกูล)
-ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
-ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
-ม.ศ. 4 โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร
- ม.ศ. 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ กรุงเทพมหานคร
ระดับปริญญาตรี
- ปี 2519 นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2516
- ปี 2519 เนติบัณฑิต รุ่นที่ 27 ปี พ.ศ.2518

การทำงาน :
-ผู้พิพากษาจังหวัดขอนแก่น
-ผู้พิพากษาประจำกระทรวงช่วยทำงาน ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
-ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดเชียงใหม่
-ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพิษณุโลก
-ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแพ่งธนบุรี
-ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
-รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้
-ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์
-ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกา
-30 ก.ย.2552– รองประธานศาลฎีกา จะเกษียณอายุราชการปี 2556
- 1 ต.ค. 2554 ประธานศาลฎีกา
Share this article :

0 ความคิดเห็น:

Speak up your mind

Tell us what you're thinking... !

Comment

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Proudly powered by Blogger
Copyright © 2011. ศาลจังหวัดสงขลา - All Rights Reserved
Template Design by Creating Website Published by Mas Template