มอบของขวัญปีใหม่ 2553

แทนใจด้วย 'ภูมิปัญญาไทย'



เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี ทุกคนต่างออกมาจับจ่ายใช้สอย ด้วยการซื้อของขวัญของถูกใจให้กับญาติมิตรสหาย เพื่อเป็นการส่งความสุขในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แต่จะมีสักกี่คนที่จะเลือกของขวัญปีใหม่อย่างสร้างสรรค์และเกื้อกูลสังคม ส่งเสริมผลิตภัณฑ์สินค้าไทย

ดังนั้น สถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะเป็นวิธีการที่ช่วยสร้างค่า นิยมใหม่ ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ ในการมอบของขวัญให้กันและกัน ในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่เช่นนี้ ด้วยการมอบของขวัญที่มาจากภูมิ ปัญญา และสินค้าแบบไทย ๆ โดยเขาได้ จัดแบ่งเป็นประเภทไว้ ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผลไม้-ผัก โดยเฉพาะพวกผลไม้พื้นบ้านของไทยเรา บ้านเรามีผลไม้หลากหลาย เช่น ส้มโอ กล้วย มะม่วง ฝรั่งขี้นก สับปะรด ฯลฯ จัดตกแต่งเป็นกระเช้าผูกโบสวย ๆ หรือกล้วยสักเครือผูกโบเก๋ไก๋ ไปมอบให้แก่ญาติมิตรหรือเจ้านาย จะเห็นได้ว่า แค่กลุ่มแรกนี้เม็ดเงินทุกบาทของเราก็เข้าสู่สวนผลไม้แล้ว ชาวสวนก็ได้รับประโยชน์ ถ้าเป็นผักก็เป็นผักสีเขียวที่ตกแต่งด้วยพริก ฟักทอง แครอท หรือสร้างสีสันให้กับกระเช้าผักอย่างสวยงาม ผู้รับก็ยกเข้าครัวไปทำกับข้าว ก็ก่อให้เกิดประโยชน์

กลุ่มที่ 2 ธัญพืช พวกข้าวกล้อง ถั่วแดง ถั่วดำ สารพัดถั่วที่มีประโยชน์มีคุณค่าทางอาหารเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากข้าว เช่น นางเล็ด งาตัด ข้าวเม่า ก็สามารถจัดรวมกันเป็นชุดห่อรวมใส่ตะกร้า แล้วนำไปมอบให้กันก็มีความหมายทีเดียว

กลุ่มที่ 3 พริก หอม กระเทียมและของแห้งต่าง ๆ อันนี้เป็นของขวัญที่ได้จากประสบการณ์ของหมอเอง เวลาหมอไปไหนมาไหนก็จะซื้อของขวัญมาฝากคุณแม่เสมอ แต่ก็ไม่เคยถูกใจสักที มักจะโดนบ่นเสียมากกว่า กระทั่งครั้งหนึ่งได้พริกแห้ง หอม กระเทียม มาฝาก นับเป็นสิ่งของที่ถูกใจมาก ทำให้เห็นว่าของขวัญในกลุ่มของใช้ในครัวเรือนนี้ก็น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของ ผู้รับใน วัยตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปได้ เพราะคนวัยนี้ชอบทำอาหารทานเอง นอกจากพริก หอม กระ เทียม แล้วเราก็อาจจัด ขิง ข่า ตะไคร้ หรือผักต่าง ๆ ตกแต่งเพิ่มเติมเข้าไปด้วยก็ได้ ผู้รับก็สามารถยกเข้าไปตั้งไว้ในครัวเก็บไว้ใช้ได้

กลุ่มที่ 4 เครื่องอุปโภคและบริโภค ที่แปรรูปด้วยฝีมือของกลุ่มแม่บ้าน และเกษตรกร ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าของ เช่น การแปรรูปผักผลไม้ เช่น กล้วยตาก สับปะรดกวน ทุเรียนกวน มะม่วงกวน ทอฟฟี่สมุนไพร หรือพวกชาสมุนไพร ยาอมสมุน ไพร ยาสมุนไพรสามัญประจำบ้านต่าง ๆ รวมถึงพวกแชมพู สบู่จากสมุนไพร เป็นต้น ก็นำมาจัดเป็นกระเช้าได้อย่างลงตัวไม่น้อย

กลุ่มที่ 5 เหล้าไทยและยาดอง เราจะเห็นภาพการให้เหล้าเป็นของขวัญแก่กันและกันเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะเหล้าที่ให้นั้นต้องเป็นเหล้านอกราคาแพงลิบลิ่ว เราก็เปลี่ยนเสีย โดยเปลี่ยนจากเหล้านอกมาเป็นเหล้าไทย เช่น ยาดอง อาจมีสักขวดที่ดองไว้เรียบร้อยแล้ว และในกระเช้าก็อาจจะมียาดองเหล้าสักห่อ พร้อมบอกสรรพคุณของยา และเหล้าขาวสักขวดเพื่อให้ไปดองเองด้วย หรือจะเป็นไวน์จากผลไม้ของไทย เช่น ไวน์มะยม ไวน์มะเม่า ไวน์ลูกหว้า สารพัดไวน์ผลไม้ของไทย จัดเป็นกระเช้านำไปมอบให้เป็นของขวัญสำหรับคอเหล้าทั้งหลาย เปลี่ยนค่านิยมมาดื่มเหล้าไทยหรือไวน์ไทย ก็ลดค่าใช้จ่ายจากการที่ต้องซื้อเหล้ายี่ห้อต่างประเทศได้มากทีเดียว

กลุ่มที่ 6 ของขวัญเครื่องหอม โดยการเอาดอกไม้ไทยไม้หอมไทยมาทำเป็นบุหงา ถุงหอม ถุงพิมเสน สำหรับแขวนหรือตั้งตามโต๊ะทำงาน ห้องทำงาน ห้องนอน ห้องน้ำ หรือในรถ รวมถึงน้ำอบไทย จัดเป็นกระเช้าเครื่องหอมไปมอบก็สร้างคุณค่าและมิตรภาพได้เป็นอย่างดี

กลุ่มที่ 7 ผ้าทอผ้าย้อม ในกลุ่มนี้โดยส่วนมากนิยมเห็นผู้ให้มักจะมอบผ้าเป็นชิ้นให้กับผู้รับไปตัด เสื้อผ้าใส่ ซึ่งควรจะเป็นผ้าไทยพวกผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าไทยจะเป็นผ้าที่มีเอกลักษณ์ในตัวเอง ทำด้วยมือและยิ่งย้อมด้วยสีธรรมชาติยิ่งเพิ่มเอกลักษณ์และความงามชัดขึ้น ผ้าไทยราคาถูก แต่ให้คุณค่าทางความรู้สึกสูง ถ้าเราให้ผ้าสักชิ้นแก่เจ้านายหรือคนที่เรารักเป็นของขวัญไปตัดเป็นเสื้อผ้า ใส่ ผู้มอบให้เห็นก็ย่อมภูมิใจเช่นกัน เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่ทำให้เม็ดเงินไหลลงสู่ชาวบ้านและชนบท

กลุ่มที่ 8 ผลิตภัณฑ์จากนุ่นและฝ้าย หรือสิ่งที่ไม่ใช่การสังเคราะห์ เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เช่น หมอนอิง หมอนขิด เป็นของที่ชาวบ้านทำขึ้นมา หรือหมอนหอมที่สามารถนำไปวางในรถหรือห้องรับแขก ก็ตัดเย็บให้สามารถเอาถุงหอมใส่ไว้ได้ เมื่อหมดกลิ่นก็ สามารถเปลี่ยนได้

กลุ่มที่ 9 ของขวัญจากใบตอง นอกจากเราจะใช้ประโยชน์จากกล้วยหรือหัวปลีที่นำไปจัดกระเช้าได้แล้ว เรายังสามารถนำใบตองมาทำเป็นพานพุ่ม หรือดัดแปลงเป็นกระเช้าหรืออะไรก็ตามแต่ไอเดียไปทำเป็นของขวัญมอบแก่กัน พานพุ่ม พานดอกไม้แม้ผู้รับจะไม่ได้นำไปใช้ก็ตาม แต่ก็อิ่มเอมทางใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ใหญ่ที่ลูกน้องลูกหลานแสดงความเคารพรัก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอื่น ๆ เช่น พวกปอ เชือกกล้วย ไม้ไผ่ ผักตบชวา ก็ให้คุณค่าอย่างยิ่ง

กลุ่มที่ 10 พันธุ์ไม้และกล้าไม้ สร้างค่านิยมในการมอบพันธุ์ไม้หรือกล้าไม้เป็นของขวัญ ใส่กระถางห่อด้วยกระดาษ สวย ๆ ตกแต่งให้สวยงาม เมื่อวางเรียงรายกันอยู่ในห้องผู้หลักผู้ใหญ่เจ้านายก็สวยงาม นัก บางพันธุ์ก็สามารถตั้งอยู่ในร่มได้นาน ก็อาจวางประดับห้องทำงานได้ และสามารถเอากลับไปปลูกที่บ้านหรือปลูกไว้ในที่ทำงานได้ เหี่ยวก็ไม่เหี่ยว ทิ้งไว้ได้นาน กินได้อีก และยังเป็นการช่วยเพิ่มสีเขียว เพิ่มต้นไม้แก่สิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ดังนั้น ของขวัญเหล่านี้ถ้าสังคมชื่นชมกัน ยกย่องกันว่าเป็นของขวัญที่ดี ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้รับในท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจวิกฤติเช่นนี้ น่าเป็นการชื่นชม และยินดี กับสิ่งที่ได้รับ จะเกิดความพอใจซึ่งกันและกัน นี่คือการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการให้ของขวัญ และเพื่อเป็นการกู้ชาติ เชียร์ให้คนไทยใช้ของไทยกินของไทยกันมาก ๆ เชียร์ให้คนไทยซื้อของขวัญจากบ้านเมืองเราเอง.

ทีมข่าวเฉพาะกิจ : รายงาน